Sign up
Log in

เรียนรู้ Call และ Put

การเทรดออปชันมีศัพท์เฉพาะตัวที่อาจทำให้นักลงทุนหุ้นทั่วไปเกิดความสับสนได้ การเปิดหน้าข้อมูล Options Chain อาจให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังอ่านหนังสือภาษาอื่น ดังนั้น การเรียนรู้เบื้องต้นว่าออปชันคืออะไรและทำงานอย่างไร ถือเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญก่อนที่จะเทรดออปชัน

ออปชันเป็นเครื่องมือที่มีความหลากหลายและปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้สามารถเทรดได้ในทุกทิศทางของตลาด ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ขาขึ้น ขาลง หรือแม้แต่ Sideway กลยุทธ์ออปชันมีความหลากหลายตั้งแต่แบบพื้นฐานไปจนถึงระดับซับซ้อน แต่ทุกกลยุทธ์ต่างมีรากฐานจากออปชันสองประเภทหลัก ได้แก่ Call และ Put

ข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

คุณอาจเคยมีประสบการณ์ในการซื้อประกันภัยสำหรับรถยนต์มาก่อน ถ้าว่ากันตามกฎหมายแล้ว การประกันภัยรถยนต์ถือเป็นข้อตกลงระหว่างคุณกับบริษัทประกันภัย หลังจากที่คุณชำระเบี้ยประกันภัยแล้ว คุณก็จะได้รับความคุ้มครองจากความเสี่ยงบางประการ เนื่องจากบริษัทประกันภัยตกลงที่จะเป็นผู้ชดเชยความเสียหายให้กับคุณ

สัญญาออปชันก็เป็นข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายเช่นกัน

ผู้ซื้อออปชันมีสิทธิ์ที่จะซื้อ หรือขายสินทรัพย์อ้างอิงที่ราคาใช้สิทธิ์ภายในวันหมดอายุ โดยไม่มีข้อผูกมัด

ในทางกลับกัน ผู้ขายออปชันมีหน้าที่ตามสัญญาที่จะต้องซื้อขายหุ้นกับผู้ซื้อ ผู้ขาย Call Option จำเป็นต้องขายสินทรัพย์อ้างอิงที่ราคาใช้สิทธิ์หากผู้ซื้อใช้สิทธิ์ซื้อ ในขณะที่ผู้ขาย Put Option จำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์อ้างอิงที่ราคาใช้สิทธิ์หากผู้ซื้อใช้สิทธิ์ขาย

‌แน่นอนว่าสิทธิ์ของผู้ซื้อออปชันย่อมมาพร้อมกับต้นทุน โดยผู้ซื้อต้องจ่ายค่าพรีเมียมให้กับผู้ขาย เหมือนกับที่คุณจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั่นเอง

เรามาดูลักษณะสำคัญของสัญญาออปชันกัน จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างออปชันและหุ้นได้ดียิ่งขึ้น

  1. ออปชันทุกชนิดจะมีสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งก็คือสินทรัพย์ที่จะถูกซื้อหรือขาย
  2. ออปชันทั้งหมดมีวันหมดอายุ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่สามารถใช้สิทธิ์ของออปชันได้
  3. ออปชันทุกสัญญามีกำหนดราคาใช้สิทธิ์ ซึ่งหมายถึงราคาที่ใช้ในการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงในกรณีที่ออปชันถูกใช้สิทธิ์

‌เมื่อเรารวมลักษณะทั้งสามข้อนี้เข้าด้วยกัน เราจะพอเห็นภาพว่าสัญญาออปชันมีหน้าตาอย่างไร ถ้าหากสินทรัพย์อ้างอิงของเราคือหุ้น ABC กำหนดราคาใช้สิทธิ์ที่ 150 ดอลลาร์ หมดอายุวันที่ 15 กรกฎาคม สัญญาออปชันจะมีลักษณะดังนี้ [ABC 15 July 150 Call]

มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงพอจะเข้าใจลักษณะสำคัญของสัญญาออปชันกันแล้ว ต่อไปเรามาต่อยอดความรู้และคุยกันเรื่องประเภทของออปชันที่แตกต่างกันสองแบบ ซึ่งได้แก่ Call และ Put

กลยุทธ์ตลาดกระทิง: การซื้อ Call Option

หากนักลงทุนคาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นเกินราคาที่มองไว้ภายในวันที่คาดการณ์ นักลงทุนอาจเลือกใช้กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ ผลตอบแทนขาขึ้นจะไม่จำกัดเมื่อราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น โดยการขาดทุนสูงสุดจะถูกจำกัดไว้ที่ค่าพรีเมียมที่จ่ายไปสำหรับการซื้อ Call Option แล้ว Call Option มีกลไกการทำงานอย่างไร?

สมมติว่าราคาหุ้น ABC ซื้อขายที่ราคาประมาณ 10.24 ดอลลาร์ คุณมีมุมมองว่าหุ้น ABC มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น คุณจึงซื้อ Call Option อ้างอิงหุ้น ABC จำนวน 1 สัญญาที่ราคาใช้สิทธิ์ 11 ดอลลาร์ หมดอายุในวันที่ 16 กันยายน 2022 และค่าพรีเมียมของสัญญาออปชันนี้อยู่ที่ 0.62 ดอลลาร์ ความเสี่ยงและผลตอบแทนของคุณจะเป็นอย่างไรหากคุณถือสัญญานี้จนถึงวันหมดอายุ?

i. โอกาสทำกำไรสูงสุดของคุณไม่มีขีดจำกัด เนื่องจากไม่มีการจำกัดไว้ว่าราคาหุ้นอ้างอิงสามารถเพิ่มขึ้นได้มากแค่ไหน ในกรณีดังกล่าว คุณจะสามารถซื้อหุ้นได้มากขึ้นในราคาต้นทุนที่ต่ำกว่าตลาด

ii. จุดคุ้มทุนจะอยู่ที่ 11.62 ดอลลาร์ (ราคาใช้สิทธิ์ 11 ดอลลาร์ + ค่าพรีเมียม 0.62 ดอลลาร์ ที่จ่ายไป) ดังนั้น คุณหวังว่าราคาหุ้น ABC จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่า 11.62 ดอลลาร์ภายในวันหมดอายุ

iii. จำนวนเงินสูงสุดที่คุณมีโอกาสสูญเสีย คือจำนวนเงินที่คุณจ่ายไปเพื่อซื้อสัญญา ซึ่งมีมูลค่าทั้งสิ้น 62 ดอลลาร์ (ค่าพรีเมียม 0.62 ดอลลาร์ x 100 หุ้น)

ตอนไหนที่เหมาะในการซื้อ Call Option: กลยุทธ์การซื้อ Call Option อาจเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณคาดการณ์ว่าหุ้นจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก่อนวันที่ออปชันหมดอายุ แต่หากราคาหุ้นขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเหนือราคาใช้สิทธิ์ กำไรที่เกิดจากการใช้สิทธิ์อาจไม่เพียงพอที่จะชดเชยค่าพรีเมียมที่จ่ายไป อาจทำให้คุณขาดทุนจากการลงทุนโดยรวมได้

กลยุทธ์ตลาดหมี: การซื้อ Put Option

หากนักลงทุนคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาที่มองภายในวันที่คาดการณ์ นักลงทุนอาจเลือกใช้กลยุทธ์นี้ ซึ่งต่างจากกลยุทธ์การซื้อ Call Option ตรงที่โอกาสในการทำกำไรของการเทรดนี้จะสูงขึ้นเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่าโอกาสทำกำไรจากกลยุทธ์นี้มีขีดจำกัด แต่ถึงอย่างนั้น กลยุทธ์นี้ก็ยังมีความน่าสนใจอยู่มาก จำนวนเงินสูงสุดที่นักลงทุนจะสูญเสียจะไม่เกินค่าพรีเมียมที่จ่ายเพื่อซื้อ Put Option

‌สมมติว่านักลงทุนมองว่าแนวโน้มหุ้น ABC เป็นขาลง ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจซื้อ Put Option อ้างอิงหุ้น ABC จำนวน 1 สัญญาที่ราคาใช้สิทธิ์ 11 ดอลลาร์ หมดอายุวันที่ 16 กันยายน 2022 และค่าพรีเมียมของสัญญาออปชันนี้อยู่ที่ 1.22 ดอลลาร์ เขาสามารถประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่จะได้จากการถือครองออปชันนี้จนหมดอายุได้ดังนี้

i. กำไรสูงสุดที่มีโอกาสจะได้รับเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลง โดยเขาจะได้กำไรจำนวน 978 ดอลลาร์ (ราคาใช้สิทธิ์ 11 ดอลลาร์ - ค่าพรีเมียม 1.22 ดอลลาร์ = 9.78 ดอลลาร์ x 100 หุ้น) ณ เวลานั้น เขาจะสามารถขายหุ้นอ้างอิงที่ไม่มีมูลค่าแล้ว ในราคาใช้สิทธิ์ที่สูงกว่าราคาตลาดได้ แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นอ้างอิงไม่สามารถลดลงต่ำกว่าศูนย์ได้

ii. จุดคุ้มทุนอยู่ที่ 9.78 ดอลลาร์ (ราคาใช้สิทธิ์ 11 ดอลลาร์ - ค่าพรีเมียม 1.22 ดอลลาร์) ซึ่งนักลงทุนรายนี้หวังว่าราคาหุ้น ABC จะปรับตัวลดลงต่ำกว่า 9.78 ดอลลาร์ภายในวันหมดอายุ

iii. จำนวนเงินขาดทุนสูงสุดที่นักลงทุนมีโอกาสสูญเสียคือจำนวนเงินที่จ่ายไปเพื่อซื้อออปชัน ซึ่งมีมูลค่าทั้งสิ้น 122 ดอลลาร์ (ค่าพรีเมียม 1.22 ดอลลาร์ x 100 หุ้น)

ตอนไหนที่เหมาะในการซื้อ Put Option: กลยุทธ์การซื้อ Put Option อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่คาดว่าราคาหุ้นจะร่วงลงอย่างรวดเร็วก่อนที่ออปชันจะหมดอายุ หากราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ์เพียงเล็กน้อย กำไรที่ได้มาจากการใช้ออปชันอาจไม่มากพอที่จะชดเชยค่าพรีเมียมที่จ่ายไป ซึ่งจะทำให้คุณขาดทุนจากการลงทุนครั้งนี้ การซื้อ Put Option ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ดั้งเดิมและเป็นที่นิยมสำหรับการเก็งกำไรในช่วงที่หุ้นอยู่ในช่วงขาลง

สรุป

0
0
0
การซื้อขายออปชันมีความเสี่ยงสูงและไม่ได้เหมาะสําหรับนักลงทุนทุกคน เนื่องจากนักลงทุนอาจประสบกับการขาดทุนที่รวดเร็วและมีนัยสําคัญ ผู้ลงทุนควรพิจารณาวัตถุประสงค์และความเสี่ยงในการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนในออปชัน
No content on the Webull website shall be considered a recommendation or solicitation for the purchase or sale of securities, options or other investment products. All information and data on the website is for reference only and no historical data shall be considered as the basis for judging future trends.